องค์ความรู้เรื่องการเลี้ยงนกแก้ว
(สูตรสำเร็จ)
ปัจจุบันการเลี้ยงนกแก้วเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง เพื่อการปล่อยบินอิสระ
เพื่อการฝึกตามคำสั่งเจ้าของ เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างทุกปีเนื่องจากเป็นแนวการเลี้ยงสัตว์แนวใหม่ ที่เรียกว่า EXOTIC PETS
แต่สำหรับการเลี้ยงสัตว์แนวใหม่นี้ ถือว่ายังใหม่สำหรับผู้เลี้ยงที่มีความสนใจ
และอยากจะลองเปลี่ยนมาเลี้ยงนกแก้ว
จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ทางฟาร์มนกอินจันทร์จะได้ขออนุญาต
แนะนำการเลี้ยงนกแก้วเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงและเพื่อการปล่อยบินอิสระ
ให้แก่ผู้ที่สนใจและยังหาข้อมูลด้านการเลี้ยงนกแก้วแบบสูตรสำเร็จอยู่
โดยเนื้อหาขอบทความ แบ่งออกเป็น
1.
การเลี้ยงลูกป้อนนกแก้ว
2.
การฝึกให้ขึ้นมือ
3.
การฝึกให้บินกลับมาหาเจ้าของ (Call back)
4.
การฝึกทำตามคำสั่งเจ้าของ
อันดับแรกการรับลูกป้อนนกแก้วมาเพื่อเลี้ยงนั้น
ต้องพิจารณาของความสมบูรณ์ของตัวลูกป้อน เฉกเช่นเดียวกับ สุนัข หรือแมว คือลักษณะขานกที่เป็นปกติ
ไม่ถ่างออกจากกัน ลักษณะนกดูสมบูรณ์
1.
การเลี้ยงลูกป้อนนกแก้ว
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลี้ยงนกแก้วตั้งแต่เล็กๆคือผู้เลี้ยงต้องเข้าใจวิธีการให้อาหารลูกป้อนโดยมีอุปกรณ์จำเป็นในการให้อาหารลูกป้อนดังนี้
- ไซริ้ง
- อาหารลูกป้อน (ลักษณะเป็นผง
หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์ ที่ฟาร์มใช้ยี่ห้อ KATEE และ NUTRI BIRD)
- ถ้วยสำหรับชงอาหาร
สำหรับวิธีการชงอาหารลูกป้อนก็ง่ายแสนง่าย
คือให้นึกถึงการชงซีลีแลค ของเด็กอ่อน นั่นเอง คือให้ต้มน้ำให้เดือด
แล้วพักทิ้งไว้นิดหน่อย แล้วจากนั้นก็ชงเข้ากับอาหารลูกป้อน
คนให้เข้ากันจากนั้นอาหารก็จะพองตัว
ค่อยเพิ่มน้ำเข้าไปเพื่อให้ได้อาหารเหลวที่ไม่ข้นหรือหนืด
จนเกินไปจนไม่สามารถป้อนให้นกแก้วได้สะดวก
จากนั้นรอให้อาหารอุ่นๆ
(ต้องไม่ร้อนเพราะจะทำให้ก
ะเพราะนกทะลุได้) จากนั้นให้ดูดอาหารใส่ไซริ้ง แล้วป้อนให้กับลูกนก โดยการป้อนแนะนำให้ จับหัวลูกนกไว้ด้วย วิธีการฉีดอาหารจากไซริ้งให้ลูกป้อนต้องทำอย่างระวัดระวังและค่อยเป็นค่อยไป ให้พักเป็นช่วงๆ สังเกตจากการขย้อนของลูกป้อนนก เทคนิคคือ ให้ใส่มุมปากขวาของลูกนกเพราะเป็นจุดที่ใกล้กับทางเดินอาหารเข้ากะเพาะพักของนก เมื่อนกกินเข้าไปแล้วกะเพาะพักของนกจะขยายขึ้น ปริมาณอาหารที่ให้นกให้สังเกตจากกระเพาะพักนี่แหละว่า พอดีเต็มท้องไม่แน่นหรือตึงเกินไป
*ข้อควรระวังในการให้อาหารลูกป้อนสำหรับมือใหม่
1.
ต้องระวังการให้อาหารที่รีบถีดอาหารเข้าปากนกที่เร็วเกินไป
จะทำให้อาหารเข้าไปในหลอดลมแทนที่จะเข้ากระเพาะพัก
(คงไม่ต้องพูดถึงนะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาหารเข้าไปอุดหลอดลมนก)
2.
การให้อาหารนกที่ร้อนเกินไป ทำให้นกกระเพาะทะลุได้
รักษายากและโอกาสรอดน้อยมาก
3.
การให้อาหารที่เหลือจากมื้อก่อน ห้ามโดดเด็ดขาด
เพราะระบบการย่อยอาหารนกเหมาะสำหรับอาหารที่อุ่นพอดี เหมือนมันมาจากพ่อแม่ ฉะนั้นทุกมื้อต้องชงแต่พอดี
และไม่ชงเผื่อมื้อต่อๆไป เพื่อสุขภาพนกที่สมบูรณ์และแข็งแรงนะครับ
4.
หลังการป้อนอาหารลูกป้อนทุกครั้งต้อง
ล้างอุปกรณ์ที่ใช้และผึ่งตากแดดตากลม เพื่อสุขอนามัยที่ดี
มีวิธีการป้อนอาหารลูกป้อนอื่นอีกไหม?
สำหรับคนที่เลี้ยงลูกป้อนเป็นจำนวนมากและไม่ต้องการเสียเวลาในการป้อน
มักจะใส่ใส้ไก่(ยางใส้ไก่ใส่รถจักรยาน) เพิ่มเข้าไปตรงหลายไซริ้ง แล้ววิธีป้อนคือ
ให้นกกลืนใส้ไก่เข้าไปในกระเพาะพักแล้วฉีดอาหารเข้ากระเพราะพักเลย วิธีนี้ทำได้รวดเร็ว
แต่ต้องอาศัยความชำนาญ ของผู้เลี้ยง
การให้อาหารแบบนี้เสี่ยงต้องการที่ใส้ไก่ทิ่มกระเพาะพัก
หรือใส้ไก่หลุดเข้าไปในกระเพราะพัก
ซึ่งทางฟาร์มแนะนำให้ป้อนตามปกติน่าจะเหมาะสมกับผู้เลี้ยงหน้าใหม่มากกว่า
การป้อนอาหารลูกป้อนโดยใช้ช้อน
คือใช้ช้อนป้อนเข้าปากให้นกเลย วิธีนี้ผู้เลี้ยงใหม่สามารถทำได้เลย แต่ข้อเสียคือ
อาหารมักจะหกเลอะตามตัวนกและพื้นห้อง
-------------------------จบ ส่วนที่1 --------------------------------------
สนใจลูกป้อนและวิธีการเลี้ยงนกแก้วเพื่อการปล่อยบินอิสระ
ติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ ฟาร์มนกอินจันทร์